

ยาคุมกำเนิด ทำให้กระดูกบางลงได้
นำไปสู่ปัญหากระดูกพรุน
เมื่อแก่ตัวลง ดังนั้นหากจำเป็นต้องกินหรือฉีดยาเหล่านี้
ก็อย่าลืมหมั่นกินอาหารที่มีแคลเซียมสูง
เช่น ผักใบเขียวเข้ม ปลาเล็กปลาน้อย ฯลฯ
หรือทานแคลเซียมเสริมไว้ด้วย...
ที่มา : Canadian Medical Association Journal, October 2001

คุณผู้หญิงที่ชอบดื่มพึงระวังเพราะร่างกายคุณ
จะซึมซับแอลกอออล์ได้เร็วกว่าผู้ชาย ( เมาเร็วกว่า)
แล้วคุณยังมีโอกาสเป็นมะเร็งเต้านม
ได้ง่ายกว่าคนที่ไม่ดื่มถึง 50%
แถมยังกระดูกเปราะกว่ากันมาก
เพราะเหล้าจะเข้าไปทำลายเนื้อกระดูก( bone mass) ของคุณ...
ที่มา : Rethinking Drinking" Reader's Digest, December 2001


นั่งรถเก๋งที่เบาะหลังตรงกลางปลอดภัยที่สุด
รองลงมาคือ ที่นั่งด้านหลังทางซ้าย (หลังคนนั่งข้างคนขับ)
เพราะตามสถิติอุบัติเหตุจะเกิดทางด้านหน้า และ ด้านคนขับมากกว่า
และหากมีคนนั่งรถไปกับคุณด้วยน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น
จะลด อันตรายจากอุบัติเหตุการชนด้านหน้ารถลงไปด้วย...
ที่มา : The Seattle Times, November 11, 2001
( ข้อมูลจาก http://www.thaihealth.or.th/th/index_th.php )

ในกะหล่ำปลีดิบจะมีสารพิษที่เรียกว่า กอยโตรเจน ( Goibrogen)
ซึ่งเป็นสารที่จะไปกันไม่ให้ต่อมไทรอยด์จับไอโอดีน
ไปสร้างเป็น ฮอร์โมนไทร๊อกซิน ( Thyroscine) ได้
ซึ่งผลที่เกิดขึ้นคือ จะทำให้เกิดเป็นโรคคอหอยพอก
แต่สารพิษเหล่านี้จะถูกทำลายได้ โดยการต้ม
จึงควรรับประทานกะหล่ำปลีสุก
จะดีกว่ากะหล่ำปลีดิบ


ในผักสดบางชนิดมีสารพิษที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เช่น ในถั่วงอก
มีสารพิษพวกที่เรียกว่าไฟเตต ซึ่งเมื่อกินเข้าไปจะ
ไปจับแร่ธาตุบางชนิดที่อยู่ในอาหาร
ทำให้ร่างกายไม่สามารถดูดซึมแร่ธาตุเหล่านั้นเข้าร่างกาย
ร่างกายจะเป็นโรคขาดแร่ธาตุ
สารพิษเหล่านี้สามารถทำลายได้โดยการต้ม
จึงควรรับประทานถั่วงอกสุขดีกว่าถั่วงอกดิบ

ตะคริวเกิดขึ้นเนื่องจากร่างกายขาดน้ำและเกลือแร่
การดื่มน้ำและ รับประทานผลไม้สดมากๆ
จึงช่วยลดการเป็นตะคริวได้...
ที่มา : Health& Fitness Column, Detroit News, August 22, 2001

ร่างกายแต่ละคนต้องการน้ำไม่เท่ากัน
แพทย์แนะนำว่าควรดื่มมาก พอที่จะถ่ายปัสสาวะได้ทุกๆ 3-4 ชั่วโมง
หากปัสสาวะคุณเป็นสีเหลือง เข้มกว่าปกติ แสดงว่าคุณกำลังขาดน้ำ...
ที่มา : Health & Fitness Column, Detroit News, August 22, 2001


หรือมาร์การีนซึ่งไม่มีประโยชน์เลยแถมเป็นพิษต่อร่างกายอีกต่างหาก
แต่ไม่ควรจะบริโภคเนยให้มากนักเพราะมากไป
ก็ทำให้เป็นโรคหัวใจ และความดันได้ง่าย...

เรื่องความชราที่มาเยือนนั้นเป็นไปตามวัยก็จริง
แต่หนุ่มสาวสมัยนี้กลับ "แก่ก่อนวัย"
ถึงเป็นที่มาของความเชื่อที่ว่า "ทุกอย่างนั้นอยู่ที่ใจ"
เคล็ดลับเหล่านี้ได้จาก น.พ.พันธ์ศักดิ์ ศุกระฤกษ์
สูตินารีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
๑.ต้องไม่อยากแก่...
ต้องตั้งใจคงความเป็นหนุ่มเป็นสาวเอาไว้
และต้องปฏิบัติควบคู่ไปทั้งร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ
๒.มีใจเป็นหนุ่มสาว..
คือ รักอิสระ มองโลกในแง่ดีและที่สำคัญมีความหวังเสมอ
หรือการคบเพื่อนที่อายุน้อยกว่าก็เป็นวิธีการที่ดี
๓.ลดความเครียด..
เลิกเอาคิ้วผูกโบได้แล้ว ลองยิ้มให้มากขึ้น
ถ้าไม่รู้จะยิ้มอย่างไรก็ลองยิ้มกับกระจกเงาที่บ้านดูสิ


ออกกำลังการอย่างน้อย 15 นาทีจะดี
๕.กินอาหารต้านชรา..
พยายามเลือกอาหารที่มีประโยชน์กับร่างกาย
เช่น พืชผักผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ
๖.นอนหลับเพียงพอ..
เราควรจะนอนให้เพียงพอกับร่างกาย
ที่ดีที่สุดควรนอนก่อนสี่ทุ่มจะดีที่สุด
๗.ความรัก..
ความรักเท่านั้นที่จะช่วยให้คนสดชื่น กระชุ่มกระชวย
ทั้งความรักของคนหรือสัตว์ ก็จะช่วยให้เราหัวใจเบิกบาน

อันตรายจากอาหารขบเคี้ยว ข้อมูลจากการสำรวจ
ของราชพฤกษ์โพล
คณะสาธารณะสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
ซึ่งเก็บตัวอย่างจากขนมหลายประเภท
จากโรงเรียนอนุบาลและประถมศึกษา จำนวน 40 โรงเรียน
ในพื้นที่ 17 เขตของกรุงเทพมหานคร
พบว่าภัยร้ายที่แฝงอยู่ในขนมเด็ก
โดยเฉพาะสารตะกั่วซึ่งเป็นพิษต่อร่างกาย
ขณะเดียวกันก็ยังพบสารอันตรายอื่นๆ

โดยเฉพาะเกลือโซเดียมในปริมาณมากน้อยต่างกันไป
ซึ่งหากบริโภค มากจนตกค้างสะสมในร่างกาย
อาจมีผลให้เส้นเลือดในสมองโป่งพองได้

ที่พบปริมาณโซเดียมสูงสุดดังนี้
1. ข้าวเกรียบปลาหมึก ตราอาริงาโตป้ง
2. ขนมทอดกรอบตราปูไทย ซองส้มเข้มป้ง
3. ข้าวเกรียบทอด ตราเอสบี รสพริกหยวก
4. ข้าวเกรียบกุ้ง ตราฮานามิ รสเม็กซิกันชิลลี่
5. แป้งมันฝรั่งทอดกรอบ ตราโรลเลอร์ โคสเตอร์
รสหัวหอมทรงเครื่อง
6. แป้งข้าวโพดอบกรอบ ตราโจโต้ รสปลาหมึก
7. ข้าวเกรียบกุ้ง ตราคาลบี้ รสต้มยำรสแซบ
8. ข้าวเกรียบปลา ตรามโนห์รา
9. ข้าวเกรียบกุ้ง ตรามโนห์รา
10. ข้าวเกรียบรสมะเขือเทศ


ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น